Defi คำใหม่สุดเท่ห์

Samret Wajanasathian
1 min readJan 10, 2020

Defi ย่อมาจาก Decentralized finance หรือระบบ การเงินแบบไม่มีศูนย์กลาง หรือ มันก็กลับไปที่ บล๊อกเชน (BlockChain) เหมือนเดิมอีกนั้นหล่ะ

ช่วงนี้ จะมีคนพูดถึงคำนี้เยอะ เพราะมันจะมาเป็นคำหากิน สำหรับปีนี้ (ก่อนหน้านี้ก็จะมี Blockchain,Ai,Deep Tech และอื่นๆ )

และสิ่งที่จะขาดไม่ได้ ก็คือ การแก้ปัญหาคนที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารได้ หรือภาษาชาวบ้านคือ มันโอนเงินผ่านธนาคารไม่ได้นั้นเอง
ตอนนี้ก็พึ่งมีเจ้าใหญ่เปิดตัวไปร้อน ๆ ดังข่าวนี้

และจึงเป็นที่มาที่ไปของบทความนี้ เพราะผมจะได้ตอบ และให้ความรู้ (ที่ผมไปสัมผัสเอง) มากับมือ เห็นกับตา สรุปว่ามันคืออะไร

ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ ปัญหาพวกนี้ก็เคยมีเจ้าใหญ่คิดจะแก้ นั้นก็คือ facebook และออกเหรียญ libra เพื่ออ้างถึงปัญหา แนว ๆ นี้เช่นกัน แต่ทำไมหล่ะ ถึงล่มไป

จริง ๆ มุขนี้มันใช้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วเพียงแต่ต่างกรรมต่างวาระ ต่างการอ้าง แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้แก้ปัญหาจริง ๆ คนกลุ่มที่มีปัญหา มันจะโดนนำมาเป็นข้ออ้าง ตั้งแต่ที่ดินทำกิน การว่างาน การคมนาคม และ อื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อสร้างโครงการใหญ่ ๆ ที่คิดว่าคนกลุ่มนี้จะได้ใช้งานแต่สุดท้าย ก็กลายเป็นโปรเจคผลาญเงินของคนบางกลุ่มเท่านั้นเพราะสุดท้าย ก็ใช้งานจริง ๆไม่ได้
ถามว่าทำไม ต้องบอกก่อนว่า การแก้ปัญหาคนหมู่มากนั้น ใช้ทรัพยากรมากกว่าที่เราจะจินตนาการไว้มาก ไหนจะต้องคนมีความรู้ขั้นเทพ เพื่อออกแบบระบบให้รองรับคนได้มหาศาล ไหนจะต้อง ออกแบบระบบให้ คนที่ไม่มีความรู้อะไรเลย เข้าใจได้ง่าย ๆ คือสรุปมันก็เหมือนจะต้องรวมเหล่าทวยเทพทุกสถาบันมาออกแบบและสร้างระบบ
แต่ เรากลับพบว่า คนกลุ่มนี้คือคนรุ่นใหม่ ที่ยังไม่สามารถตกผลึกของปัญหา และเข้าถึงรากเหง้าของปัญหาได้อย่างถ่องแท้

ผมไม่ขอบอกว่า ข่าวข้างต้นเป็นยังไง แต่ขอให้ท่านอ่านและคิดตาม และตัดสินใจด้วยตนเอง

การโอนเงินนั้น เป็นปัญหาจริง ๆ ของคนใช้แรงงานที่ไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินได้ ถามว่าทำไม? ท่านถามตัวเองก่อน
และ ถามตัวท่านเองว่า วันนี้เปิดบัญชีธนาคาร มันยากตรงไหน? และ วันนี้เมืองไทย มันโอนเงินกันเสียค่าธรรมเนียม มากขนาดนั้นเลยหรือ?
และ อยากให้ทุกท่านเข้าใจว่า SWIFT Code คือระบบของธนาคาร ไม่ใช่บอกว่าเข้าถึงธนาคารไม่ได้ เลยจำเป็นต้องใช้ SWIFT ในการโอนเงิน

มาถึงตรงนี้ ท่านน่าจะมีคำตอบในใจแล้วว่า การเปิดบัญชีมันไม่ยาก เมื่อเปิดได้ก็โอนได้ ปัญหาเลยไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่เขาเปิดบัญชีไม่ได้ และเมื่อเปิดบัญชีไม่ได้ มันก็เลยโอนเงินไม่ได้

เพราะฉะนั้นปัญหามันคือทำไมเขาถึง “เปิดบัญชีไม่ได้”

นั้นเพราะ มันมีบางอย่างที่สลับซับซ้อนซึ่งทุกท่านคงต้องลองเดากันเองกับหลาย ๆ อาชีพที่มันก็เข้ามาไม่ค่อยถูก แต่เต็มบ้านเต็มเมืองเรา เอาเป็นว่าผมไม่ขอพูดถึง แต่ เพราะตรงนี้ ทำให้ ต่อให้ธนาคารเข้ามาร่วมด้วยยังไง มันก็แก้ไม่ได้ เพราะตราบใดที่ ธนาคาร ก็ยังโดนควบคุมด้วยกฎหมายหลายข้อ สุดท้าย มันเลยไปต่อไม่ได้
เพราะงั้นคนกลุ่มนี้ถึงต้องพึ่งพาระบบอื่น ๆ แทน
การแก้ปัญหาคนกลุ่มนี้เลยไม่ใช่ เอา ระบบ blockchain มาต่อกับ ธนาคารแล้วจบ เพราะปัญหามันไม่ใช่ระบบ blockchain แต่ปัญหามันคือ ข้อกฎหมาย ที่ไม่เอื้อให้เกิดการเปิดบัญชีกับคนกลุ่มนี้ได้

คราวนี้ มาขายของกันบ้าง
ผมพิมพ์มาถึงจุดนี้ จุดหนึ่งเพื่อที่จะได้บอกคนที่ติดตามการทำงานของ ShuttleOne อยู่ ว่าแล้วเราทำได้ยังไง
จริง ๆ ทางเราคิดต่าง คือ เราแทบไม่ได้จับมือกับทาง ธนาคารไหนเลย เราจับมือกับกลุ่มบริษัทที่ให้บริการส่งเงินข้ามประเทศอย่างถูกกฎหมาย ให้เขาได้ส่งเงินที่ค่าธรรมเนียมต่ำลง จากเดิม 100 บาท คนรับได้ รับที่ 55 บาท

และ เราไม่ได้ทำให้คนกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคาร ให้เข้าถึงได้ แต่เราสร้างระบบใหม่ ให้คนกลุ่มนี้ ได้ใช้งาน เทียบเท่า หรือ ดีกว่าคนที่สามารถใช้ระบบ ธนาคารได้”

การเชื่อมคนใหม่ เข้าระบบเก่า จะทำให้คนใหม่ ต้องใช้เงื่อนไขระบบเก่า
การเอาคนใหม่ เข้าระบบใหม่ จึงดีกว่า กลับกันเราไม่ได้หวังให้คนที่มีระบบการเงิน ในระบบมาใช้ของเรา เพราะเขาอาจจะไม่ชินกับการจ่ายดอกที่สูงถึง 15% ต่อปี และค่าธรรมเนียมการโอนเงินที่ 10% ต่อครั้ง กลับกันกับที่คนนอกระบบ จะเคยชินกับการจ่ายดอกที่ 36%–48% ต่อปี และ ค่าธรรมเนียมโอนเงินที่ 45%

ทั้งหมดนี้จะเห็นว่า ShuttleOne ไม่ได้หวังว่าจะต้องสร้างระบบที่ค่าธรรมเนียมถูกที่สุดเพราะเราเข้าใจว่า ของถูกของฟรี ของดี ไม่มีในโลก แต่ เราจะทำยังไงให้สิ่งที่มีอยู่มันดีขึ้น แต่ไม่ใช่ไปตัดราคาจนไม่สามารถหากำไร หรือ ทำอะไรกับมันได้เลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้น มันก็จะไม่ยั่งยืนอีกต่อไป

--

--

Samret Wajanasathian

จงทำตัวเล็ก แต่เงาใหญ่